เวลาที่เราขอทุนวิจัย หรือ ทำวิทยานิพนธ์ หรือ งานวิจัยใดๆ สักชิ้นหนึ่ง นักวิจัยจะต้องตระหนักว่างานวิจัยที่กำลังดำเนินการนี้มีประโยชน์ต่อผู้อื่นและต่อตนเองอย่างไร (เน้นว่าต้องให้ประโยชน์คนอื่น และเพื่อตัวเองไปพร้อมๆกัน คนอื่นได้ประโยชน์นักวิจัยจะมีความสุข ส่วนการทำเพื่อตัวเองเพื่อต่อยอด passion ให้มีแรงทำวิจัยต่อไปเรื่อยๆ รวมถึงหาเลี้ยงชีพ)
ปัจจุบันนี้งานวิจัยต้องระบุให้ได้ว่าประโยชน์จากงานวิจัย คือ อะไร เพราะส่วนนี้จะมีผลต่อการตัดสินทุนวิจัย ส่วนมากนักวิจัยใหม่ๆ จะเขียนแบบนี้ค่ะ
สมมติมีงานวิจัยหนึ่ง ชื่อ
ชื่องานวิจัย : ปัจจัยที่มีผลต่อการ drop out ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย XXX
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ : (ไม่ควรเขียน)
1. ได้ทราบถึงปัจจัยที่มีผลต่อการ drop out ของนักศึกษาในมหาวิทยาลัย XXX
2. เพื่อทราบวิธีแก้ไขปัญหาต่อไป
การใช้คำว่า ได้ทราบ เพื่อทราบ จะไม่ทำให้ผู้อ่าน หรือ กรรมการตัดสินทุน หรือ กรรมการสอบวิทยานิพนธ์เห็นภาพ เพราะเมื่อเราทำวิจัยผลที่ตามมาคือได้ทราบ หรือ ได้เรียนรู้ อยู่แล้ว แต่สิ่งที่นักวิจัยควรเขียนจะต้องเป็นแบบนี้ค่ะ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ : (ควรเขียน)
1. นำผลการวิจัยไปสร้างนโยบายบริหารงานวิชาการของคณะศิลปศาสตร์เพื่อป้องกันการ drop out ของนักศึกษา
2. ผลการวิจัยนำไปใช้ระบุวิธีแก้ปัญหาให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยอื่นๆได้
แบบถึงจะเรียกว่าเป็นประโยชน์ที่ดี และประโยชน์จากงานวิจัยจะต้องเป็นไปได้ด้วยนะคะ ถ้าเป็นไปไม่ได้ ห้ามเขียนลงไปค่ะ มิเช่นนั้นจะเหมือนเราโกหกคนอื่น
อีกสักตัวอย่างนะคะ
สมมติมีงานวิจัยหนึ่ง ชื่อ
ชื่องานวิจัย : การวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างความหมายคำว่า produce กับ create ด้วยคลังข้อมูล
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ : (ไม่ควรเขียน)
ได้ทราบถึงควาแตกต่างของความหมายคำว่า produce กับ create
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ : (ควรเขียน)
นำผลการวิจัยไปสร้างแบบฝึกหัดเกี่ยวกับการใช้ synonym ให้กับผู้เรียนภาษาอังกฤษ
เห็นความแตกต่างไหมคะ
ประโยชน์ของงานวิจัยจะต้องเป็นมากกว่าการได้รู้ ได้เรียน ได้ทราบ ได้พิสูจน์ นักวิจัยจะต้องคิดต่อให้ได้ว่า
"เมื่องานวิจัยของเราเสร็จแล้ว เราจะเอาไปทำอะไรต่อ
จะเอาไปสร้างอะไรให้ใคร
ใครเอางานเราไปใช้ทำอะไรได้บ้าง อย่างไร"
งานวิจัยง่ายมากใช่ไหมคะ แต่ต้องคิดเยอะ รอบคอบ และนอกกรอบ แค่นั้นเอง
No comments:
Post a Comment