Tuesday, January 10, 2017

อายุเท่าไหร่ก็เป็นนักประดิษฐ์ได้ มา..มา..มา ประกวดสิ่งประดิษฐ์กัน ในวันนักประดิษฐ์แห่งชาติ พร้อมวิธีคิดในการสร้างสิ่งประดิษฐ์



        ทุกวันที่ 2-6 กุมภาพันธ์ ของทุกปี สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หรือ ที่รู้จักกันสั้นๆ ว่า วช. ได้ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมผลักดันและพัฒนาศักยภาพด้านการวิจัยที่นำไปสู่การประดิษฐ์คิดค้นสำหรับนักวิจัยและนักประดิษฐ์ไทย เวทีประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับชาติที่ชื่อว่า "วันนักประดิษฐ์" จึงเกิดขึ้น 
        
สมัครอย่างไร
       ในช่วงราวๆ เดือนสิงหาคม ถึง ตุลาคม วช. จะประกาศรับสมัครสิ่งประดิษฐ์จากสถาบันการศึกษาทั่วประเทศให้เข้าร่วมประกวดผ่านประกาศทางมหาวิทยาลัย วิทยาลัย โรงเรียน ฯลฯ รวมถึงหน้าเว็บไซต์ www.nrct.go.th และ www.inventorday.go.th 
      ผู้สมัครจะต้องกรอกข้อมูลสิ่งประดิษฐ์ลงแบบฟอร์มที่ทาง วช. เตรียมไว้ให้ เช่น แบบเสนอผลงานฯ ซึ่งผู้สมัครต้องกรอกข้อมูลว่า สิ่งประดิษฐ์นี้มีที่มาอย่างไร ประโยชน์ของสิ่งประดิษฐ์มีอะไรบ้าง เป็นต้น พร้อมแนบรูปภาพสิ่งประดิษฐ์
      จากนั้น ผู้สมัครจะต้องเลือกประเภทและกลุ่มเรื่องที่เสนอขอรับรางวั จากนั้นส่งข้อมูลทั้งหมดกลับไปยัง วช. ทั้งทางไปรษณีย์ และอีเมล์ ประเภทและกลุ่มเรื่องที่เสนอขอรับรางวัลมี 3 ประเภท ดังนี้


ประเภทและกลุ่มเรื่องที่เสนอขอรับรางวั
             
      มัธยมศึกษา  จะแบ่งสิ่งประดิษฐ์ออกเป็นประเภทย่อย ได้แก่
      ๑ สิ่งประดิษฐ์ด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
      ๒ สิ่งประดิษฐ์ด้านเกษตรและอาหาร
      ๓ สิ่งประดิษฐ์ด้านการเรียนการสอนและการเรียนรู้
      ๔ สิ่งประดิษฐ์ด้านภูมิปัญญาไทย

      อาชีวศึกษา จะแบ่งสิ่งประดิษฐ์ออกเป็นประเภทย่อย ได้แก่
      ๑ สิ่งประดิษฐ์ด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
      ๒ สิ่งประดิษฐ์ด้านเกษตร อาหาร และอุตสาหกรรมการเกษตร
      ๓ สิ่งประดิษฐ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
      ๔ สิ่งประดิษฐ์ด้านคุณภาพชีวิต ศิลปะและการออกแบบ

      อุดมศึกษา จะแบ่งสิ่งประดิษฐ์ออกเป็นประเภทย่อย ได้แก่
      ๑ สิ่งประดิษฐ์ด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน
      ๒ สิ่งประดิษฐ์ด้านเกษตร อาหาร และอุตสาหกรรมการเกษตร
      ๓ สิ่งประดิษฐ์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
      ๔ สิ่งประดิษฐ์ด้านคุณภาพชีวิต ศิลปะและการออกแบบ
      ๕ สิ่งประดิษฐ์ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี


เกิดอะไรขึ้นหลังจากได้รับรางวัล
       เมื่อได้รับรางวัล เราจะมีสิทธินำสิ่งประดิษฐ์ขึ้นบัญชีสิ่งประดิษฐ์ไทย เพื่อให้บริษัท หรือ ภาคเอกชนที่สนใจสิ่งประดิษฐ์ของเราได้ติดต่อประสานในการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ให้เกิดประโยชน์กับสังคมหรือประเทศชาติต่อไป

       นอกจากนั้น เรายังมีสิทธินำสิ่งประดิษฐ์เข้าประกวดในเวทีระดับนานาชาติต่าง ๆ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาส สร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นช่องทางหนึ่งในการสร้างโอกาสแก่นักวิจัยและนักประดิษฐ์ของไทย สําหรับการรับรองมาตรฐานแก่ผลงานประดิษฐ์คิดค้น เพื่อพัฒนาสู่การตลาดและเชิงพาณิชย์ 

       ในงานระดับนานาชาตินี้ ประเทศต่างๆที่เป็นสามาชิกใน World Innovation and 
Intellectual Property Association (WIIPA) จะเป็นเจ้าภาพเวียนกันจัดงานตลอดทั้งปี ได้แก่ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ประเทศมาเลเซีย ประเทศไต้หวัน ประเทศโปแลนด์ ประเทศเกาหลี เป็นต้น ข้างล่างเป็นตัวอย่างภาพในการประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติที่เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน ซึ่งจะจัดช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี
ภาพที่ 1 ตัวอย่างการประกวดสิ่งประดิษฐ์ระดับนานาชาติที่เมืองเกาสง ประเทศไต้หวัน

ภาพที่ 2 ตัวอย่างการจัดแสดงสิ่งประดิษฐ์จากประเทศต่างๆ


สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการประกวดระดับนานาชาติ
       1. ครูสำคัญมากในการผลักดัน (drive) ลูกศิษย์ ครูที่คิดเป็น ทำเป็น และสร้างคนเป็น จะทำให้เกิดเด็กๆที่มีความเป็นนักประดิษฐ์ที่มีคุณภาพ และครูจะสามารถสร้างให้เด็กเป็นนักตั้งคำถามที่มีคุณภาพด้วย 
           ยกตัวอย่าง โรงเรียนจุฬาภรณ์ (ปทุมธานี) มีวิชาพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียน โดยครูผู้สอนจะวัดความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆก่อนเรียน จากนั้นให้นักเรียนคิดงานวิจัยผ่าน theme ที่กำหนดขึ้น และครูเปิด fb ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้นักเรียนได้ปรึกษาระหว่างทำงานวิจัย ครูทุ่มเทขนาดที่ว่าลูกศิษย์ต้องการไปข้อมูลใหม่ๆอะไรให้บอกครู ครูจะเป็นคนพาไปดูให้เห็นของจริงด้วยตนเอง
           หรือ อีกกรณีหนึ่ง มีนักประดิษฐ์จากประเทศฮ่องกง ที่เป็นนักเรียนระดับประถม สามารถเดินมาถามที่บูธนักประดิษฐ์ที่เป็นระดับอาจารย์ในประเทศไทยได้ว่า "What is your rationale in creating this?" / "Why did you do this?" ทำให้ทราบทันทีว่าครูที่สอนเด็กกลุ่มนี้คงจะไม่ธรรมดา สามารถผลักดันให้เด็กระดับประถมสามารถตั้งคำถามแบบ critical ได้

       2. อายุ ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญสำหรับการสร้างสิ่งประดิษฐ์หรือทำวิจัย อายุเท่าไหร่ก็เป็นนักประดิษฐ์ได้ ในงานระดับนานาชาติมีนักประดิษฐ์ตั้งแต่ระดับประถม จนถึง ระดับศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัย เข้ามาร่วมแข่งขัน 
          เด็กประถมจากประเทศฟิลิปปินส์สามารถคิดสบู่กันเชื้อราได้ หรือ ศาสตราจารย์จากประเทศไต้หวัน ผู้คิดค้นกระดาษจากก้อนหินที่วางขายและใช้ได้จริง ดังภาพที่ 3 เป็นต้น

ภาพที่ 3 กระดาษที่ทำจากหิน (Paper made from stone)

       3. เทคนิคการนำเสนอ มีความสำคัญ ก่อนนำเสนอ นักประดิษฐ์ต้องคิดว่า ผู้เข้าชมต้องการทราบอะไร แล้วนำเสนอให้ตรงประเด็น ประเด็นต่างๆ ที่ควรนำเสนอ ได้แก่ สิ่งประดิษฐ์นี้มีหน้าตา และคุณสมบัติอะไร มีประโยชน์กี่ข้อ อะไรบ้าง (ต้องมีผลการวิจัยรองรับ) สิ่งประดิษฐ์นี้สามารถสร้าง Value Added อย่างไร
           ในงานที่มีผู้เข้าชมจำนวนมากแบบนี้ หรือ ในการแสดงนิทรรศการ จะไม่มีใครมายืนอ่านตัวหนังสือ ทุกคนจะดูภาพ และตั้งคำถามถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ 
           ดังนั้น  การนำเสนอโปสเตอร์ควรประกอบด้วยภาพเป็นหลัก คำบรรยายควรมีให้น้อย ที่สำคัญ อย่าลืมบอกว่าสิ่งประดิษฐ์นี้มีประโยชน์อย่างไรโดยต้องมีฐานคิดจากงานวิจัย (based on งานวิจัย) เช่น กระดาษที่ทำจากหินเพียง 1 แผ่น สามารถลดก๊าซคาร์บอนฯได้ 900 กิโลกรัม (ผ่านการทดลองหรือการทำวิจัยมาแล้ว) ลดการตัดไม้ทำลายป่าได้ 100 ต้น เป็นต้น

      4. ปัจจุบันนี้ ไม่มีการแบ่งสายวิทย์ หรือ ศิลป์ แล้ว เนื่องจากทุกศาสตร์สามารถบูรณาการเข้าด้วยกันได้ทั้งหมด 
          ในการประกวดระดับนานาชาติจึงไม่มีการแบ่งสิ่งประดิษฐ์ออกเป็นสิ่งประดิษฐ์สายวิทยาศาสตร์ หรือ ภาษา หรือ ศึกษาศาสตร์  ทุกสาขาจะต้องแข่งรวมกัน  

          สำหรับคนที่อยู่สายภาษา สามารถสร้างสิ่งประดิษฐ์ได้เช่นกัน เช่น มีนักวิจัยสร้างแอพลิเคชั่นฝึกออกเสียงภาษาไทยบนมือถือ (Thai Tone App.) แต่แอพลิเคชั่นนี้ต้องแตกต่างจากที่มีตามท้องตลาด คือ ต้องประกอบด้วยคำที่วิจัยออกมาแล้วว่าเป็นปัญหาสำหรับผู้เรียน ไม่ใช่อยากใส่คำอะไรลงในแอพลิเคชั่นก็ใส่ได้ แต่ต้องทำวิจัยออกมาก่อนว่ามีคำใดบ้างที่ผู้เรียนควรฝึกเป็นพิเศษ เช่น ต้องฝึกออกเสียงคำที่มีวรรณยุกต์เอกกับโทให้มากในคนจีน ในแอพลิเคชั่นก็อาจจะมีแต่แบบฝึกหัดที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกออกเสียงวรรณยุกต์เอกกับโท เป็นหลัก   นอกจากนั้น ยังมีสิ่งประดิษฐ์อีกมากมายที่คนสายมนุษยศาสตร์ได้สร้างขึ้น เช่น Thai Writing Application ของ ศาสตราจารย์ ดร.อภิลักษณ์ ธรรมทวีธิกุล ฯลฯ

          คำถามสำคัญที่ควรถามก่อนสร้างสิ่งประดิษฐ์สำหรับคนทางสายศิลปศาสตร์ หรือ มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ คือ 
          1. ทำไมต้องทำ ทำให้ใคร ใครจะใช้ประโยชน์ เช่น จะสร้างสิ่งประดิษฐ์ให้นักเรียนบนดอย ตามความต้องการของผู้บริหารสถานศึกษาที่ร้องขอมา  เหตุผลจะต้องไม่ใช่ว่าเราสร้างสิ่งประดิษฐ์ตามความต้องการของเราเอง เพื่อจะได้ส่งเข้าประกวด อย่างนี้คงเป็นวิธีคิดที่ใช้ไม่ได้
          2. ทำแล้วสิ่งนี้จะแตกต่างจากที่มีในท้องตลาดอย่างไร เช่น แบบฝึกหัดของเราสร้างจากงานวิจัยที่มีคนทำไว้ หรือ ที่เราเคยทำวิจัยไว้ เช่น เคยทำวิจัยคำศัพท์ญี่ปุ่นที่ปรากฏมากในบริษัทคูบาโต้ เราสามารถนำคำศัพท์เหล่านั้นมาใส่ในสิ่งประดิษฐ์ของเราได้
          3. ข้อจำกัดของสิ่งประดิษฐ์นี้คืออะไร และ จุดแข็งของสิ่งประดิษฐ์นี้มีอะไรบ้าง  เพื่อจะได้คิดต่อว่าจะพัฒนาจุดแข็งต่อไปอย่างไร และจะลดข้อจำกัดของสิ่งประดิษฐ์ด้วยวิธีไหน เช่น สร้างสิ่งประดิษฐ์ให้นักเรียนบนดอย แต่จะใช้งานสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวได้ต้องต่ออินเตอร์เน็ต อย่างนี้คงไม่เหมาะสมกับบนดอยซึ่งเป็นพื้นที่ที่สัญญาณอินเตอร์เน็ตไม่แรง เป็นต้น แต่เราอาจจะสามารถพัฒนาสร้างแอพลิเคชั่นออกมาก่อนได้ จากนั้น ค่อยหาวิธีแปลงไฟล์ให้เป็นนามสกุล .exe ที่ไม่ต้องต่อเชื่อมอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
          4. การพัฒนาไปสู่เชิงพาณิชย์จะทำอย่างไร เนื่องจากประเทศไทยต้องการนวัตกรรมใหม่ๆในการสร้างเศรษฐกิจให้ก้าวพ้น "กับดักรายได้ปานกลาง" หรือ "Middle Income Trap" ดังนั้น คำถามข้อนี้จึงสำคัญมาก 
            นักวิจัยหรือนักประดิษฐ์สามารถประสานงานกับบริษัทหรือหน่วยงานเอกชนใ้หเข้ามามีส่วนร่วมกันพัฒนางานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ต่อ โดยผ่านองค์กร เช่น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ สกว. โดยติดต่อ ฝ่ายอุตสาหกรรม หรือ ฝ่าย R2Biz  จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการผลักดันงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ให้เข้าสู่นวัตกรรมเชิงพาณิชย์  


อย่าลืมนะคะสายมนุษยศาสตร์ก็สร้างสิ่งประดิษฐ์ได้ 
ขอเพียงลงมือทำ เท่านั้น

2 comments:

  1. If you're looking to lose kilograms then you absolutely need to start using this totally brand new tailor-made keto meal plan.

    To create this service, licensed nutritionists, personal trainers, and cooks united to provide keto meal plans that are productive, decent, price-efficient, and delicious.

    Since their launch in early 2019, thousands of people have already completely transformed their body and well-being with the benefits a good keto meal plan can offer.

    Speaking of benefits: in this link, you'll discover eight scientifically-confirmed ones offered by the keto meal plan.

    ReplyDelete
  2. You should see how my colleague Wesley Virgin's biography launches in this SHOCKING and controversial VIDEO.

    You see, Wesley was in the military-and soon after leaving-he unveiled hidden, "SELF MIND CONTROL" tactics that the CIA and others used to get everything they want.

    As it turns out, these are the same tactics many famous people (especially those who "became famous out of nothing") and top business people used to become rich and famous.

    You probably know how you utilize only 10% of your brain.

    That's really because most of your brainpower is UNTAPPED.

    Maybe this expression has even taken place INSIDE your own mind... as it did in my good friend Wesley Virgin's mind around 7 years back, while driving a non-registered, trash bucket of a car with a suspended license and $3.20 in his bank account.

    "I'm absolutely fed up with living check to check! When will I become successful?"

    You've been a part of those those thoughts, right?

    Your success story is waiting to start. Go and take a leap of faith in YOURSELF.

    CLICK HERE TO LEARN WESLEY'S METHOD

    ReplyDelete